หน้าแรก | เกี่ยวกับหน่วยงาน | อัลบั้มภาพ | ติดต่อเรา | สมาชิก
 
คลังชูโรดแม็พปฏิรูปแบงก์รัฐ ผุดกฎหมายพิเศษคุม เน้นบริการประชาชน
 คลังชง 2 แนวทางปฏิรูปแบงก์รัฐ เน้นบริการประชาชนให้เข้าถึงด้านการเงิน พร้อมออกกฎหมายดูแลเป็นการเฉพาะ ดึงปลัดคลังนั่งหัวโต๊ะ กำหนดแผนธุรกิจและประเมินผลงาน
    รายงานข่าวจากกระทรวงการคลัง ระบุว่า สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ได้เสนอแผนแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ (โรดแม็พ) ในส่วนของการปฏิรูปสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ (แบงก์รัฐ) ให้คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) พิจารณาแล้ว โดยมีวัตถุประสงค์หลัก 2 เรื่อง ได้แก่ การเพิ่มประสิทธิภาพในการเติมเต็มช่องว่างทางการเงิน โดยเน้นการให้บริการประชาชนที่เข้าไม่ถึงการบริการทางการเงินเป็นหลัก และการออกกฎหมายเพื่อกำกับดูแลแบงก์รัฐเป็นการเฉพาะ รวมทั้งการเพิ่มความมั่นคงในระบบแบงก์รัฐ ที่ต้องแก้ไขปัญหาการดำเนินงานและการพัฒนาระบบการกำกับดูแล เพื่อป้องกันการแทรกแซงจากฝ่ายการเมือง
    ทั้งนี้ การปรับบทบาทของแบงก์รัฐให้เหมาะสมกับการพัฒนาของระบบสถาบันการเงิน โดยเน้นให้บริการประชาชนที่เข้าไม่ถึงการบริการทางการเงิน ทั้งการปรับกฎเกณฑ์การกำกับดูแลความมั่นคงทางการเงิน รวมถึงปรับปรุงระบบประเมินผลและค่าตอบแทน แนวทางการแยกบัญชีธุรกรรมนโยบายรัฐ และปรับปรุงกฎหมายการจัดตั้งแบงก์รัฐ เพื่อให้การดำเนินงานมีความต่อเนื่อง
    “ปัจจุบันแบงก์รัฐมีความสำคัญมากขึ้นในระบบสถาบันการเงินไทย โดยมีหน้าที่ในการให้บริการประชาชนและธุรกิจที่ไม่สามารถเข้าถึงบริการทางการเงินของธนาคารพาณิชย์ ทำให้ควรปรับปรุงระบบการกำกับดูแลและตรวจสอบให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น โดยเฉพาะควรสร้างความแตกต่างจากธนาคารพาณิชย์ และมีกรอบการดำเนินงานที่แตกต่างจากรัฐวิสาหกิจทั่วไป เนื่องจากมีการรับฝากเงินจากประชาชน ซึ่งที่ผ่านมากระทรวงการคลังไม่ได้ออกกฎเกณฑ์กำกับดูแลเท่าใดนัก ทำให้แบงก์รัฐยังขาดการกำกับดูแลที่ครอบคลุมความเสี่ยงที่ครบถ้วน” รายงานข่าวระบุ
    สำหรับการออกกฎหมายเพื่อกำกับดูแลแบงก์รัฐเป็นการเฉพาะนั้น จะต้องมีคณะกรรมการนโยบายสถาบันแบงก์รัฐ โดยให้ปลัดกระทรวงการคลังเป็นประธาน และมีกรรมการเป็นผู้แทนระดับสูงจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และ สศค.เป็นเลขานุการ เพื่อรับผิดชอบและกำกับดูแลแบงก์รัฐ กำหนดแผนธุรกิจและประเมินผลงานและบรรษัทภิบาลในด้านต่างๆ
    อย่างไรก็ตาม ต้องให้ ธปท.มีหน้าที่ตรวจสอบแบงก์รัฐ และรายงานผลการตรวจสอบให้คณะกรรมการสั่งแก้ไข ยกเว้นกรรมการหรือผู้บริหารแบงก์รัฐมีการกระทำที่ส่อไปในทางทุจริตหรืออาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อแบงก์รัฐ ให้ ธปท.มีอำนาจร้องทุกข์หรือกล่าวโทษบุคคลดังกล่าวได้ทันที รวมทั้งกำหนดบทลงโทษการฝ่าฝืนหากไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย และกรอบการดำเนินงานตามพันธกิจที่แตกต่างจากรัฐวิสาหกิจทั่วไปที่ไม่ใช่สถาบันการเงิน เช่น สศค.จัดทำแผนธุรกิจร่วมกับแบงก์รัฐ ประเมินผลและค่าตอบแทนที่ไม่เน้นกำไรเป็นหลัก
    ก่อนหน้านี้ นายรังสรรค์ ศรีวรศาสตร์ ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวว่า การปรับเปลี่ยนฝ่ายบริหารรัฐวิสาหกิจ กระทรวงการคลัง คงต้องหารือให้เกิดความชัดเจนอีกครั้งภายในเดือน มิ.ย.นี้ โดยเบื้องต้นมองว่าแบงก์รัฐควรอยู่ในความดูแลของกระทรวงการคลัง เพราะมีความรู้ความเชี่ยวชาญด้านการเงินการคลัง และมีความรู้ด้านเศรษฐกิจ ดังนั้นเชื่อว่าน่าจะส่งผลดีต่อการบริหารนโยบายของสถาบันการเงิน มากกว่ากรรมการที่ได้รับการแต่งตั้งมาจากที่อื่น.
แหล่งที่มา : หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์
วันที่ลงข่าว : 5 มิ.ย. 2557
« กลับ
ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ
มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย
126/1 ถ.วิภาวดีรังสิต แขวงดินแดง เขตดินแดง กรุงเทพฯ 10400
โทรศัพท์: 0-2697-6341
โทรสาร: 0-2697-6342
อีเมล: [email protected]
หน้าแรก   เกี่ยวกับหน่วยงาน  ข่าวและกิจกรรม  งานวิจัย  บทวิเคราะห์สถานการณ์ >
รายงานภาวะเศรษฐกิจ  ดัชนี  หอการค้าโพลล์  AEC  สถิติ   ดาวน์โหลด  อัลบั้มภาพ  ติดต่อเรา
ท่านสามารถนำเนื้อหาไปใช้แสดงดัดแปลงเผยแพร่ โดยต้องอ้างอิงที่มา
ห้ามใช้เพื่อการค้า และต้องแนบสัญญาอนุญาตชนิดเดียวกันนี้ไปกับงานที่เผยแพร่ต่฿เว้นแต่จะระบุเป็นอย่างอื่น
Copyright © 2013 The Center for Economic and Business Forecasting