หน้าแรก | เกี่ยวกับหน่วยงาน | อัลบั้มภาพ | ติดต่อเรา | สมาชิก
 
QE ผสมม็อบกดบาทอ่อน กสิกรหวั่นจีดีพี 57ต่ำ 3.7%
  ธปท.รับการเมืองป่วนผสมโรงลด QE กดค่าเงินบาทอ่อนแรงและเร็ว แต่ยังสอดคล้องภูมิภาค ย้ำพร้อมดูแลเป็นพิเศษเพื่อไม่ให้กระทบส่งออก-นำเข้า ด้านกสิกรไทยคาดจีดีพีโตต่ำคาดการณ์ 3.7-4.5% หากการเมืองยืดเยื้อ 
    นางรุ่ง มัลลิกะมาส โฆษกธนาคารแห่งประเทศไทย  (ธปท.) เปิดเผยว่า เงินบาทที่อ่อนค่าในบางช่วงเมื่อเทียบกับสกุลอื่นในภูมิภาค เนื่องมาจากปัจจัยต่างประเทศ กรณีธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะลดขนาดมาตรการผ่อนปรนเชิงปริมาณ (QE) และปัจจัยการเมืองในประเทศ
    "เงินบาทที่อ่อนค่า โดยภาพรวมยังอยู่ในทิศทางเดียวกับภูมิภาค แต่มีปัจจัยในประเทศเข้ามาผสมโรง ทำให้ในบางช่วงอ่อนค่าเร็ว เพราะนักลงทุนมีความกังวลเรื่องการเมืองในประเทศ" นางรุ่งกล่าว
    โดยทิศทางค่าเงินขณะนี้มีความผันผวนกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากโดยปกติไม่มีเหตุการณ์อะไรเข้ามากระทบ แต่ขณะนี้ประเทศไทยถือว่ามีปัจจัยการเมืองที่นักลงทุนยังกังวล อย่างไรก็ตาม ธปท.ยังคงดูแลให้ค่าเงินอยู่ในระดับที่ไม่เคลื่อนไหวผันผวนมากเกินไป เพื่อให้สะท้อนพื้นฐาน โดยการดูแลค่าเงินยังมีความยืดหยุ่นเพื่อให้ผู้นำเข้าและส่งออกปรับตัวได้ ธปท.จึงเอาใจใส่ช่วงนี้เป็นพิเศษ
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ค่าเงินบาทอ่อนตัวลงต่อเนื่องใกล้ 33 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ โดยราคาปิดเมื่อวันที่ 24 ธ.ค. ธนาคารรับซื้อที่ 32.36 บาทต่อดอลลาร์ และขายออก 32.98 บาทต่อดอลลาร์
    นายปกรณ์ พรรธนะแพทย์ รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) กล่าวว่า บริษัทคาดว่าเศรษฐกิจไทยปี 2557 จะขยายตัวได้ 3.7-4.5% จากปีนี้ที่คาดว่าจะขยายตัว 2.7% และหากสถานการณ์การเมืองยังยืดเยื้อและรุนแรง คาดว่าอาจทำให้เติบโตไม่ถึงที่คาดการณ์ไว้
    โดยปี 2557 การขยายตัวทางเศรษฐกิจมีการขับเคลื่อนจากเศรษฐกิจประเทศคู่ค้า เช่น สหรัฐ ยุโรป และจีน ที่มีการฟื้นตัว และยังมีเรื่องของปัจจัยของโรคระบาดลดลง ซึ่งส่งผลให้การส่งออกเป็นตัวหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจในปีหน้า และยังมีการเติบโตของสินค้าเกษตรที่ดีขึ้น ส่งผลให้การขยายตัวของสินเชื่อยังเติบโตได้ดี อย่างไรก็ตาม การลงทุนจากภาครัฐและเอกชนอาจชะลอตัวลงไปจากสถานการณ์การเมืองที่ยังคงยืดเยื้อ  
    ทั้งนี้ ในปี 2557 คาดว่าการขยายตัวบริการต่างๆ ของธนาคารจะเป็นตัวผลักดันให้สินเชื่อรายย่อยรวมของธนาคารโตได้ 10-13% ซึ่งธนาคารจะมีการขยายฐานลูกค้าโดยรุกไปต่างจังหวัด ตั้งเป้าลูกค้าใหม่ในปีหน้า 3.3 ล้านราย และคาดว่าในสิ้นปี 2557 จะมีลูกค้ารวมทั้งหมด 14-15 ล้านราย ยอดเงินฝากและกองทุนรวมคาดว่าจะเติบโต 9-12% และรายได้จากค่าธรรมเนียม (สุทธิ) จะเติบโต 20-23%.
แหล่งที่มา : หนังสือพิมพ์ไทยโำำพสต์
วันที่ลงข่าว : 25 ธ.ค. 2556
« กลับ
ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ
มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย
126/1 ถ.วิภาวดีรังสิต แขวงดินแดง เขตดินแดง กรุงเทพฯ 10400
โทรศัพท์: 0-2697-6341
โทรสาร: 0-2697-6342
อีเมล: [email protected]
หน้าแรก   เกี่ยวกับหน่วยงาน  ข่าวและกิจกรรม  งานวิจัย  บทวิเคราะห์สถานการณ์ >
รายงานภาวะเศรษฐกิจ  ดัชนี  หอการค้าโพลล์  AEC  สถิติ   ดาวน์โหลด  อัลบั้มภาพ  ติดต่อเรา
ท่านสามารถนำเนื้อหาไปใช้แสดงดัดแปลงเผยแพร่ โดยต้องอ้างอิงที่มา
ห้ามใช้เพื่อการค้า และต้องแนบสัญญาอนุญาตชนิดเดียวกันนี้ไปกับงานที่เผยแพร่ต่฿เว้นแต่จะระบุเป็นอย่างอื่น
Copyright © 2013 The Center for Economic and Business Forecasting