หน้าแรก
|
เกี่ยวกับหน่วยงาน
|
อัลบั้มภาพ
|
ติดต่อเรา
|
สมาชิก
ปตท.ชี้ยอดใช้ LPG พุ่ง 1เท่าตัว ไฟเขียวยืดเก็บภาษีดีเซลอีกเดือน
ปตท.ชี้ความต้องการใช้แอลพีจีอีก 2 ปี พุ่งอีกเท่าตัว เตรียมเร่งขยายท่าเรือและคลังเก็บแอลพีจีมูลค่า 1.5 หมื่นล้านบาท พร้อมศึกษาการลงทุนสร้างท่อขนส่งแอลพีจีศรีราชาไปสระบุรี ครม.ไฟเขียวยืดอายุมาตรการลดภาษีดีเซลต่ออีก 1 เดือน เล็งขยายระยะเวลามาตรการเพิ่มเป็นครั้งละ 3 เดือน ยาวถึง เม.ย.57 ให้ครอบคลุมช่วงเลือกตั้งและจัดตั้งรัฐบาลใหม่
นายสรัญ รังคสิริ ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการกลุ่มธุรกิจปิโตรเลียมขั้นปลาย บมจ.ปตท. เปิดเผยว่า ความต้องการใช้ก๊าซหุงต้ม (แอลพีจี) ในประเทศไทยจะเพิ่มสูงขึ้นถึง 2-3 แสนตันต่อเดือนในปี 2558 จากปัจจุบันอยู่ที่ 1.62 แสนตันต่อเดือน หรือเพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัว ดังนั้น ปตท.ได้เร่งขยายท่าเรือและคลังเก็บแอลพีจี เฟส 1 ที่เขาบ่อยา อำเภอศรีราชา จ.ชลบุรี ให้เสร็จภายในปี 2558 ซึ่งจะช่วยให้ลดปัญหาการขนถ่ายแอลพีจีนอกท่าได้หมด สำหรับโครงการดังกล่าวใช้เงินลงทุนประมาณ 15,000 ล้านบาท ซึ่ง ปตท.จะเป็นผู้ลงทุนไปก่อน และรัฐบาลจะมาจ่ายชดเชยให้ในภายหลัง
ทั้งนี้ ในอนาคตความต้องการใช้แอลพีจีมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ซึ่งปัจจุบันจะใช้วิธีขนส่งทางเรือ รถไฟ และรถยนต์ ซึ่งเสี่ยงต่อความปลอดภัย ดังนั้น ปตท.จึงเตรียมแผนลงทุนในเฟส 2 อีก แต่เป็นการลงทุนสร้างท่อขนส่งแอลพีจีจากเขาบ่อยา อ.ศรีราชา ไปยังจังหวัดสระบุรีแทน เพื่อลดอุบัติเหตุและลดต้นทุนในการขนส่งลง ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาความเหมาะสม โดยดำเนินการควบคู่กับการสร้างเฟส 1 โดยใช้เงินลงทุนประมาณ 10,000 ล้านบาท ซึ่งในส่วนนี้ ปตท.จะลงทุนไปก่อน และภาครัฐจ่ายชดเชยคืนให้ในภายหลังเช่นเดียวกับเฟสแรก เพราะถือเป็นการสร้างสาธารณูปโภคพื้นฐานให้กับประเทศ ทั้งนี้คาดว่าท่อขนส่งแอลพีจีจะสร้างเสร็จประมาณปี 2559-2560
“ขั้นตอนการลงทุนท่อส่งน้ำมันนั้น ขณะนี้ ปตท.กำลังอยู่ระหว่างการศึกษารายละเอียดของโครงการ จากนั้นจะส่งให้กระทรวงพลังงานพิจารณาก่อนจะหาผู้รับเหมาก่อสร้างต่อไป ส่วนการชดเชยเงินลงทุนนั้น ทางกรมธุรกิจพลังงานจะเป็นผู้พิจารณาแผนการชดเชยให้ ปตท.ต่อไป” นายสรัญกล่าว
นายทนุศักดิ์ เล็กอุทัย รักษาการ รมช.การคลัง กล่าวว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบให้ขยายระยะเวลาการปรับลดอัตราภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซล ในอัตราลิตรละ 0.005 บาท ออกไปอีก 1 เดือน จากเดิมที่จะหมดอายุลงในวันที่ 31 ธ.ค.2556 เป็น 31 ม.ค.2557 แม้ว่าการปรับลดครั้งนี้จะส่งผลให้รัฐสูญเสียรายได้ประมาณ 9,000 ล้านบาท แต่กระทรวงการคลังเห็นว่า เป็นการช่วยบรรเทาภาระต้นทุนในภาคขนส่งได้ ขณะเดียวกันหากไม่ปรับลดภาษีลง จะส่งผลให้ราคาน้ำมันดีเซลปรับเพิ่มขึ้นเป็นลิตรละ 40 บาท และทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน
นอกจากนี้ ครม.ยังได้หารือถึงแนวทางการขยายระยะเวลาจัดเก็บภาษีดังกล่าวในระยะต่อไป โดยเห็นชอบร่วมกันว่า หลังจากสิ้นสุดมาตรการดังกล่าวในเดือน ม.ค.57 แล้ว อาจพิจารณาขยายระยะเวลาออกไปอีกเป็นครั้งละ 3 เดือน หรือตั้งแต่เดือน ก.พ.–เม.ย.2557 ให้ครอบคลุมช่วงการเลือกตั้งและการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ อีกทั้งยังไม่ต้องเสนอมาเป็นรายเดือน เพราะมีขั้นตอนมาก ซึ่งเรื่องดังกล่าวทางกระทรวงการคลังจะเสนอรายละเอียดให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) พิจารณาอีกครั้งว่าจะสามารถดำเนินการได้หรือไม่.
แหล่งที่มา :
หนังสือพิมพ์ไทยโำำพสต์
วันที่ลงข่าว :
26 ธ.ค. 2556
« กลับ
ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ
มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย
126/1 ถ.วิภาวดีรังสิต แขวงดินแดง เขตดินแดง กรุงเทพฯ 10400
โทรศัพท์: 0-2697-6341
โทรสาร: 0-2697-6342
อีเมล:
[email protected]
หน้าแรก
เกี่ยวกับหน่วยงาน
ข่าวและกิจกรรม
งานวิจัย
บทวิเคราะห์สถานการณ์ >
รายงานภาวะเศรษฐกิจ
ดัชนี
หอการค้าโพลล์
AEC
สถิติ
ดาวน์โหลด
อัลบั้มภาพ
ติดต่อเรา
ท่านสามารถนำเนื้อหาไปใช้แสดงดัดแปลงเผยแพร่ โดยต้องอ้างอิงที่มา
ห้ามใช้เพื่อการค้า และต้องแนบสัญญาอนุญาตชนิดเดียวกันนี้ไปกับงานที่เผยแพร่ต่฿เว้นแต่จะระบุเป็นอย่างอื่น
Copyright © 2013 The Center for Economic and Business Forecasting