หน้าแรก | เกี่ยวกับหน่วยงาน | อัลบั้มภาพ | ติดต่อเรา | สมาชิก
 
หืดจับเร่งจ่ายเงินจำนำข้าว ธ.ก.ส.จ่อส่งข้อมูลเข้าเครดิตบูโร
  ธ.ก.ส.หืดจับเร่งจ่ายเงินจำนำข้าวให้ชาวนา หวั่นไม่ทันเส้นตาย 15 ม.ค. บี้รัฐเร่งหาเงินทุนหมุนเวียนโดยด่วน เตรียมส่งข้อมูลลูกค้ารายใหญ่เข้าเครดิตบูโร เฟสแรกกว่า 1 หมื่นราย 
        นายสุพัฒน์ เอี้ยวฉาย ผู้ช่วยผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ ธ.ก.ส.กำลังพยายามจ่ายเงินให้เกษตรกรที่นำข้าวเข้าโครงการรับจำนำข้าวนาปี ฤดูกาลผลิต 2556/57 ที่ได้รับใบประทวนแล้ว กว่า 5.5 ล้านตันข้าวเปลือก อย่างเต็มที่ เพื่อให้ทันตามกรอบเวลาที่นายทนุศักดิ์ เล็กอุทัย รักษาการ รมช.การคลัง ได้ระบุว่าจะดำเนินการจ่ายเงินให้เกษตรกรทั้งหมดภายในวันที่ 15 ม.ค. นี้ โดยล่าสุดได้ดำเนินการจ่ายเงินให้เกษตกรไปแล้วทั้งสิ้น 4 หมื่นล้านบาท หรือคิดเป็น 2 ล้านตันข้าวเปลือก และยังเหลือเกษตรกรที่ไม่ได้รับเงินอีกประมาณ 3.5 ล้านตันข้าวเปลือก
      “ธ.ก.ส.ก็พยายามทำงานกันอย่างเต็มที่ เต็มความสามารถเท่าที่จะทำได้ เพื่อให้ทันตามกรอบเวลาที่กำหนด ส่วนหน่วยงานที่มีหน้าที่ในการหาเงินก็ต้องเร่งหาเงินมาหมุนเวียนในโครงการให้ทันเช่นกัน เพื่อไม่ให้ชาวนาทั้งหมดที่เข้าโครงการได้รับผลกระทบ” นายสุพัฒน์กล่าว
       นายสุพัฒน์กล่าวอีกว่า ในส่วนของแผนการกู้เงิน จำนวน 1.4 แสนล้านบาท สำหรับใช้ในโครงการรับจำนำข้าวรอบใหม่นั้น คงต้องมาหารือกันในที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายและกำกับการบริหารหนี้สาธารณะ (3 ม.ค.) อีกทีว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป
    ด้านนายสุรพงศ์ นิลพันธุ์ ผู้ช่วยผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าเรื่องการเข้าเป็นสมาชิกเครดิตบูโรว่า ได้เจรจากับเครดิตบูโรเรื่องการส่งฐานข้อมูลลูกค้ากลุ่มเกษตรกรของ ธ.ก.ส. ที่มีจำนวนประมาณ 10 ล้านราย โดยจะขอแบ่งทำเป็นเฟส มีระยะเวลา 3 ปี เพราะฐานลูกค้ามีจำนวนมาก และส่วนใหญ่เป็นรายย่อย โดยในช่วงปี 2557 (เฟสแรก) จะส่งเฉพาะลูกค้ารายใหญ่ ที่ไม่ใช่ลูกหนี้กลุ่มเกษตรกรโดยตรง เช่น กลุ่มแปรรูปสินค้าเกษตรที่กู้เงินมากกว่า 1 ล้านบาท มีจำนวนประมาณ 1 หมื่นรายก่อน เนื่องจากกลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่มีรายได้เฉลี่ยต่อปีมากกว่า 2 ล้านบาท ซึ่งน่าจะใช้สินเชื่อ และถือบัตรเครดิตของธนาคารพาณิชย์ด้วย จึงน่าจะได้ประโยชน์จากการเข้าเครดิตบูโรมากกว่า
    "ในหลักการ ธ.ก.ส.ตกลงเข้าเป็นสมาชิกเครดิตบูโร แต่คงไม่ส่งข้อมูลลูกค้าทั้งหมดเข้าเครดิตบูโร ซึ่งธนาคารออมสินก็ทำแบบเดียวกันคือ ส่งเฉพาะลูกค้ารายใหญ่เข้าเครดิตบูโร เนื่องจากลูกค้ารายย่อยๆ จะไม่มีการกู้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งคนกลุ่มนี้จะไม่สามารถเข้าถึงระบบสินเชื่อของธนาคารพาณิชย์อยู่แล้ว จึงไม่จำเป็นต้องเข้าสู่ระบบเครดิตบูโร" นายสุรพงศ์กล่าว
    สำหรับความคืบหน้าเรื่องการทำบัตรเครดิตของ ธ.ก.ส. นั้น อยู่ระหว่างการหารือเรื่องการเตรียมความพร้อมกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และชมรมบัตรเครดิต เพราะขณะนี้ ธ.ก.ส.ยังไม่เป็นสมาชิกชมรมบัตรเครดิต และกรณีที่ต้องการให้ลูกค้านำบัตรไปรูดซื้อสินค้าในต่างประเทศ จะต้องหารือเรื่องการเตรียมความพร้อมด้านระบบการทำงานคอร์แบงก์กิ้งกับวีซ่าในระยะต่อไปด้วย
    นายสุรพงศ์ยังกล่าวถึงเรื่องบัตรสินเชื่อเกษตรกรอีกว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับผลกระทบเรื่องหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) ที่เกิดจากการชะลอการจ่ายเงินในโครงการรับจำนำข้าว เนื่องจากเกษตรกรที่กำหนดชำระหนี้ปีละครั้ง ซึ่งจะเริ่มในเดือนมี.ค.2557 นี้ ซึ่งยอดเอ็นพีแอลของบัตรสินเชื่อล่าสุดอยู่ที่ระดับ 1 % หรือประมาณ 140 ล้านบาทเท่านั้น อีกทั้งการใช้จ่ายผ่านบัตรแต่ละครั้งมีวงเงินไม่มาก คิดเฉลี่ยเป็นวงเงินที่ใช้ประมาณ 3,000-4,000 บาทต่อครั้งเท่านั้น.
แหล่งที่มา : หนังสือพิมพ์ไทยโำำพสต์
วันที่ลงข่าว : 3 ม.ค. 2557
« กลับ
ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ
มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย
126/1 ถ.วิภาวดีรังสิต แขวงดินแดง เขตดินแดง กรุงเทพฯ 10400
โทรศัพท์: 0-2697-6341
โทรสาร: 0-2697-6342
อีเมล: [email protected]
หน้าแรก   เกี่ยวกับหน่วยงาน  ข่าวและกิจกรรม  งานวิจัย  บทวิเคราะห์สถานการณ์ >
รายงานภาวะเศรษฐกิจ  ดัชนี  หอการค้าโพลล์  AEC  สถิติ   ดาวน์โหลด  อัลบั้มภาพ  ติดต่อเรา
ท่านสามารถนำเนื้อหาไปใช้แสดงดัดแปลงเผยแพร่ โดยต้องอ้างอิงที่มา
ห้ามใช้เพื่อการค้า และต้องแนบสัญญาอนุญาตชนิดเดียวกันนี้ไปกับงานที่เผยแพร่ต่฿เว้นแต่จะระบุเป็นอย่างอื่น
Copyright © 2013 The Center for Economic and Business Forecasting