สอดคล้องกับดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับเศรษฐกิจโดยรวม ดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับโอกาสหางานทำโดยรวมและดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับรายได้ในอนาคตอยู่ที่ระดับ 64.8 73.3 และ 95.0 ตามลำดับ โดยปรับตัวลดลงทุกรายการเมื่อเทียบกับดัชนีในเดือนเม.ย. ที่อยู่ในระดับ 66.2 74.6 และ 96.7 ตามลำดับ ทั้งนี้ ดัชนียังอยู่ในระดับต่ำกว่าปกติ (ที่ระดับ 100) แสดงว่าผู้บริโภคยังไม่มีความมั่นใจเกี่ยวกับสถานการณ์ทางเศรษฐกิจ โอกาสในการหางานทำและรายได้ในอนาคตมากนักการปรับตัวลดลงของดัชนีทุกรายการต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3
นายธนวรรธน์ กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตาม จากการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีที่เสร็จสิ้นแล้ว คาดว่าจะเห็นคณะรัฐมนตรี (ครม.) เดือนก.ค.นี้ โดยเฉพาะรัฐมนตรีเศรษฐกิจน่าจะใกล้เคียงกับทีมเดิมเข้ามาสานต่องานจะสามารถดึงความเชื่อมั่นให้ดีขึ้นได้ แม้การเบิกจ่ายงบประมาณปี 2563 อาจจะล่าช้าไปถึงต้นปีหน้า ทำให้เกิดสุญญากาศครึ่งปีหลัง แต่รัฐบาลสามารถใช้งบกลางหรืองบที่เหลือแต่ละกระทรวง เพื่อออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจปีนี้ให้ขยายตัวไม่ต่ำกว่า 3.5%
ส่วนความกังวลว่าจะมีการเคลื่อนไหวนอกสภา หากเป็ไปในกรอบจะไม่กระทบต่อเศรษฐกิจ เพราะเป็นการเคลื่อนไหวที่สามารถทำได้ แต่หากเกิดความรุนแรงถึงขั้นสถานทูตต่างชาติออกมาเตือนจะกระทบเศรษฐกิจต่ำกว่าที่คาดไว้แน่นอน เพราะมีผลโดยตรงต่อการท่องเที่ยวในประเทศ จากสถิติในรอบ 60 ปี เศรษฐกิจไทยจะติดลบจากปัจจัยภายนอกเท่านั้น เพราะที่ผ่านมาแม้เกิดเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ หรือ เหตุการณ์ชุมนุมปิดพื้นที่กรุงเทพมหานคร เศรษฐกิจก็สามารถขยายตัวเป็นบวกได้