นายอัทธ์ พิศาลวานิช ผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาการค้าระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า การส่งออกของไทยปีนี้น่าจะขยายตัวได้เพียง 1.3% หรือคิดเป็นมูลค่า 231,740 ล้านเหรียญสหรัฐเท่านั้น เนื่องจาก 8 เดือนที่ผ่านมา การส่งออกขยายตัวได้น้อย
อย่างไรก็ตาม การส่งออกไตรมาส 4 คาดว่าจะขยายตัวได้ 5.12% มูลค่า 60,108 ล้านเหรียญสหรัฐ ต่ำกว่าไตรมาสเดียวกันปีก่อนที่ขยายตัว 18.48% เพราะแม้เศรษฐกิจประเทศคู่ค้าสำคัญของไทย ทั้งสหรัฐ กลุ่มสหภาพยุโรป (อียู) และอาเซียนจะดีขึ้น แต่ก็ไม่เพียงพอที่จะช่วยผลักดันให้การส่งออกปีนี้ขยายตัวตามเป้าหมายกระทรวงพาณิชย์ที่ 4%
ทั้งนี้ ปี 2557 คาดว่าการส่งออกจะฟื้นตัวและขยายตัวดีขึ้น 5.48-7.9% มูลค่า 244,986-250,560 ล้านเหรียญสหรัฐ เนื่องจากเศรษฐกิจสหรัฐจะขยายตัวเพิ่มขึ้น แต่ก็ยังต้องติดตามปัญหาเศรษฐกิจของสหรัฐที่ยังมีปัญหาเพดานหนี้และมาตรการลดคิวอี อาจจะส่งผลต่อการลงทุนและความผันผวนของค่าเงินบาท
“คาดว่าธนาคารกลางสหรัฐจะลดมาตรการคิวอีไตรมาสแรกปี 2557 ซึ่งจะส่งผลต่อเงินทุนไหลออก และจะทำให้เงินบาทอ่อนค่า 30.89-31.22 บาทต่อเหรียญสหรัฐ อ่อนค่าเป็นลำดับ 3 รองจากอินโดนีเซียและมาเลเซีย”นายอัทธ์ กล่าว
อย่างไรก็ดี ความเสี่ยงในประเทศยังคงต้องติดตามเรื่องการเมือง เพราะจะเกิดความไม่สงบได้ แต่หากไม่มีการปิดสนามบินหรือท่าเรือ ก็ไม่กระทบต่อการส่งออกมากนัก
นางนันทวัลย์ ศกุนตนาค อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กล่าวว่า วันที่ 11 พ.ย.นี้ นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ จะประชุมร่วมกับสมาคมการค้าต่างๆ เพื่อจัดทำแผนผลักดันการส่งออก และสรุปเป้าหมายส่งออกปี 2556 รวมทั้งกำหนดเป้าหมายส่งออกปี 2557 ด้วย
สำหรับแผนการส่งเสริมและผลักดันการส่งออกปี 2557 นั้น กรมจะสร้างภาพลักษณ์ให้กับสินค้าไทยเป็นรายกลุ่มสินค้า โดยจะโปรโมตผ่านนิตยสาร แมกกาซีน โทรทัศน์ บิลบอร์ด ในประเทศเป้าหมาย เพื่อประชาสัมพันธ์ให้สินค้าไทยเป็นที่รู้จักในต่างประเทศ และสร้างการยอมรับต่อสินค้าไทย ซึ่งจะทำให้สินค้าไทยมีการส่งออกได้เพิ่มขึ้น
“ได้ขอให้ทูตพาณิชย์ในแต่ละประเทศไปดูว่าประเทศที่ประจำอยู่มีสินค้าไทยอะไรที่เจาะตลาดได้เพิ่มขึ้น เพื่อโปรโมตสินค้าชนิดนั้นให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น และโปรโมตผ่านสื่อเฉพาะของสินค้านั้นๆ อย่างเช่น อาหาร ก็จะเน้นหนังสือ นิตยสาร รายการทีวีที่เกี่ยวกับอาหาร เป็นต้น”นางนันทวัลย์ กล่าว